โดย นางสาวพัณณ์ชิตา พัฒนรุจิโรจน์
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาชีวประวัติและแนวคิดทางการเมืองของเมิ่งจื่อ สาเหตุที่ปรัชญาเมิ่งจื่อไม่ได้รับการยอมรับในสมัยจ้านกว๋อ แต่กลับเป็นที่ยอมรับในสมัยราชวงศ์ซ่ง โดยศึกษาจากเอกสารภาษาไทยที่เกี่ยวข้องกับอัตชีวประวัติและปรัชญาของเมิ่งจื่อ รวมทั้งเอกสารเกี่ยวกับประวัติวัฒนธรรมจีน
จากการศึกษาพบว่า ปรัชญาของเมิ่งจื่อให้ความสำคัญกับการเป็นผู้ปกครองที่ดี ในแง่ที่ว่า ผู้ปกครองต้องคำนึงถึงความต้องการของประชาชนอยู่เสมอ มาตรการใด ๆ ที่ดำเนินการต้องเป็นไปตามความเห็นชอบของประชาชน แต่ไม่ว่าเมิ่งจื่อพยายามเสนอหลักปรัชญาการปกครองกับแคว้นต่างๆมากมาย ก็ไม่มีผู้ปกครองคนใดสนใจและนำไปปฏิบัติตามเลย ทั้งนี้น่าจะเป็นเพราะว่าปรัชญาการปกครองเมิ่งจื่อ ขัดต่อความปรารถนาของผู้ปกครองสมัยนั้นที่ต้องการมีอำนาจเหนือประชาชนอย่างเด็ดขาดและความต้องการที่จะมีอำนาจเหนืออาณาจักรอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม ในสมัยราชวงศ์ฮั่น ต่งจ้งซู ได้ปรับเปลี่ยนปรัชญาขงจื่อ ให้เอื้อประโยชน์ต่อการปกครองแบบรวมอำนาจสู่ส่วนกลาง กล่าวคือ ยอมรับอำนาจของกษัตริย์เหนือประชาชนพลเมือง ซึ่งสร้างความมั่นคงให้แก่ผู้ปกครอง การปรับปรุงแนวคิดครั้งนี้ได้ส่งอิทธิพลมายังราชวงศ์ซ่งจนปรัชญาสำนักขงจื่อได้กลายเป็นคัมภีร์สำคัญที่ใช้สอบคัดเลือกคนเข้ารับราชการ โดยนักปราชญ์ชื่อว่า จูซีได้รวบรวมคัมภีร์ทางปรัชญาของสำนักขงจื่อเป็นชุดคัมภีร์ที่เรียกว่า “ซือซู” โดยมีคัมภีร์ “เมิ่งจื่อ” เป็นหนึ่งในนั้นด้วย กล่าวได้ว่าการปรับปรุงแนวคำสอนทางปรัชญาใหม่ในสมัยฮั่นและซ่งนั่นเองที่ทำให้ปรัชญาของเมิ่งจื่อได้รับการยอมรับไปด้วย