การศึกษาเปรียบเทียบลักษณะการบริการของบริษัทชิปปิ้งในประเทศไทยจากเว็บไซต์เถาเป่า (淘宝)

นางสาววิภาดา เทพแก้ว

บทคัดย่อ

ในยุคที่ดิจิทัลเข้ามามีบทบาทและกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ทำให้เกิดการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Commerce บริษัทเถาเป่า (淘宝) ก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่ขยายตลาดไปอย่างต่อเนื่อง เถาเป่าจึงเข้ามามีส่วนแบ่งทางการตลาดของไทยด้วย และเมื่อผู้บริโภคเกิดความต้องการซื้อมากขึ้น ทำให้เกิดบริษัทที่รับนำเข้าสินค้าจากเถาเป่าของประเทศจีนโดยตรง ในงานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบลักษณะการให้บริการ ผลประกอบการ ตลอดจนความพึงพอใจของผู้ใช้บริการบริษัทวีแคนบาย บริษัทเยล โลจิสติกส์ และบริษัทเถาเปาทูยู ในส่วนวิธีการศึกษาเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยข้อมูลทุติยภูมิจากเว็บไซต์ของบริษัท เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และรวบรวมข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์จากผู้ใช้บริการบริษัทละ 3 คน รวมทั้งสิ้น 9 คน โดยการสุ่มแบบบังเอิญในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม ปี 2565 จากนั้นนำมาเคราะห์เชิงบรรยาย และวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการศึกษาพบว่า วิธีการนำเข้าสินค้าของแต่ละบริษัทมีความคล้ายคลึงกัน โดยมีจุดร่วมคือ ประเภทการขนส่ง และสินค้าที่รับนำเข้า ส่วนประเด็นที่ทำให้เกิดข้อเปรียบเทียบ ได้แก่ ค่าใช้จ่ายต่อคำสั่งซื้อ ด้านผลประกอบการ บริษัทวีแคนบายมีรายได้รวมสูงที่สุดในปี 2561 แต่มีรายได้หดตัวลงในปี 2562 และ 2563 ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ส่งผลให้มีผลประกอบการดีขึ้นในปี 2563 ในขณะที่บริษัทเยล โลจิสติกส์มีรายได้รวมสูงที่สุดในปี 2562 และ 2563 รวมถึงมีกำไรสุทธิมากที่สุดในปี 2562 ส่วนช่องว่างของกำไรในปี 2562 และ 2563 มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาจเป็นเพราะผู้ใช้บริการขาดความเชื่อมั่นเรื่องค่าขนส่ง รวมทั้งปัญหา COVID-19 ในส่วนบริษัทเถาเปาทูยูที่ยังคงกำไรในปี 2563 และมีกำไรมากที่สุด เพราะมีเงื่อนไขในการให้บริการน้อยและค่อนข้างยืดหยุ่น มีบริการหลายรูปแบบ ทำให้รองรับความต้องการของผู้ใช้บริการได้ดี ในด้านความพึงพอใจ บริษัทวีแคนบายมีจุดแข็งด้านการใช้เว็บไซต์ ซึ่งแบ่งหมวดหมู่ในการใช้บริการได้อย่างชัดเจน และมีจุดอ่อนเรื่องแอปพลิเคชัน เนื่องจากระบบไม่เสถียร ทำให้ค่อนข้างช้า และใช้งานได้ยาก ในขณะที่บริษัทเยล โลจิสติกส์ มีจุดแข็งด้านความถูกต้องในการจัดส่ง และมีจุดอ่อนด้านระยะเวลาการขนส่ง เนื่องจากไม่สามารถควบคุมระยะเวลาการขนส่งให้ใกล้เคียงกับที่รับรองไว้ได้ ส่วนบริษัทเถาเปาทูยูมีจุดแข็งด้านราคา เมื่อเปรียบเทียบราคาของทั้งสามบริษัทแล้ว บริษัทฯ มีอัตราค่าขนส่งต่อกิโลกรัมต่ำที่สุด และมีจุดอ่อนเรื่องความไม่ชัดเจนของค่าใช้จ่ายบางประเภท โดยบริษัทฯ ไม่ได้สรุปค่าใช้สำหรับค่าบริการแต่ละส่วนอย่างละเอียด ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถศึกษาข้อมูลเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกใช้บริษัทชิปปิ้งที่ตรงตามเงื่อนไขของตนเองได้