โดย นางสาวธิดารัตน์ วนัสบดีกุล
บทคัดย่อ
อุตสาหกรรมเครื่องสำอางถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกปัจจุบันและมีภาวะการขยายตัวที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันหันมาให้ความสำคัญต่อเครื่องสำอางเพิ่มมากขึ้น จนกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันสาหรับผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย ความนิยมที่เพิ่มขึ้นจึงก่อให้เกิดอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องสำอางต่างๆ เพื่อตอบสนองเหล่าผู้บริโภค และเกิดการแข่งขัน พัฒนา คิดค้นนวัตกรรมเครื่องสำอางใหม่ๆออกมาสู่ตลาด โดยงานวิจัยชิ้นนี้ได้ทำการศึกษาถึงการแข่งขันของอุตสาหกรรมเครื่องสำอางของประเทศญี่ปุ่น และประเทศเกาหลี ว่าทั้ง 2 ประเทศนั้นมีแผนการตลาดที่แตกต่างกันอย่างไร ในการตีตลาดให้แบรนด์ของประเทศตนเองกลายเป็นแบรนด์ชั้นนำ รวมถึงการศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของกลไกการตลาดในแต่ละประเทศ และแผนการตลาดในการส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ของตน ผลการศึกษาพบว่า จุดเด่นของแบรนด์แต่ละประเทศต่างก็มีเป้าหมายและวิธีการดำเนินการตลาดที่แตกต่างกันออกไป กล่าวคือแบรนด์ Skinfood ของประเทศเกาหลีเน้นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ส่วนผสมสกัดมาจากธรรมชาติ ตั้งราคาขายต่ำเพื่อเจาะตลาดหลายระดับมากขึ้น เป็นลักษะแบบกระแสนิยมโดยผ่านสื่อศิลปินดารา เน้นความเป็นแฟชั่นเป็นหลัก ในขณะที่แบรนด์ Shiseido ของประเทศญี่ปุ่นเน้นการสร้างภาพลักษณ์ของความหรูหนา แสดงออกถึงสินค้าที่ดูมีคุณภาพสูงด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ราคาค่อนข้างสูง รักษาฐานการตลาดอยู่ที่ลูกค้าดั้งเดิม และให้ความสำคัญกับคำว่า“นำสมัย” เป็นหลัก ในด้านของจุดแข็งนั้นจะเห็นได้ว่าทั้ง 2 ประเทศมีจุดแข็งที่ทำให้ประสบความสาเร็จเช่นเดียวกัน คือ การวางตำแหน่งการเจาะตลาดของทั้ง 2 แบรนด์นี้ต่างก็รองรับตลาดเอเชียเป็นหลัก และเน้นการสร้างความหลากหลายของสินค้า เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ วัฒนธรรม ชาติพรรณ ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายนั้นๆ
ดาวน์โหลด บทความวิจัย
